มีความผิดปกติทางสมองของโรคแบบหนึ่งที่ทำให้ผู้เป็น เกิดปัญหาการเรียนรู้ อย่าง อ่านติดๆ ขัดๆ เขียนตัวอักษรกลับข้าง แต่ไม่ได้มีระดับสติปัญญาต่ำผิดปกตินะคะ คือ บางคนเรียนรู้เรื่องถ้าให้ฟังอย่างเดียว จำได้ ตอบคำถามไว้ แต่ถ้าให้อ่านปั๊บ กลับจะอ่านไม่ออกขึ้นเสียอย่างนั้น หรืออาจพูดเก่งมาก แต่พอให้เขียนกลับติดขัด เขียนออกมาเป็นประโยคไม่ได้เลย ซึ่งอาจเป็นปัญหาของใครหลายๆ คนด้วย โดยเฉพาะกลุ่มน้องๆ และคนที่ยังเรียนหนังสืออยู่ เพราะเจ้าปัญหาทางสมองนี้ทำให้เด็กๆ หลายคนเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง เรียนตก เรียนไม่เก่ง จนถึงขั้นถูกตราหน้าว่าปัญญาอ่อนเลย ซึ่งจริงๆ แล้วที่เรียนไม่เก่ง อาจเป็นเพราะความผิดปกติของสมองนี้ก็ได้ค่ะ เจ้าปัญหานี้ เรียกว่า ภาวะความบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือ Learning Disabilities คือ มีความผิดปกติของสมองที่ทำให้เกิดการรับรู้ผิดเพี้ยนค่ะ ทำให้เกิดความยากลำบากในการเรียน จะเขียนก็สับสน จะอ่านก็เหมือนมองตัวอักษรไม่ออก มีหลายอาการ บางคนคิดเลขคำนวณไม่ได้เสียเลยก็มี
ภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ LD นี้ เกิดได้จากหลายสาเหตุ หรือบางครั้งก็วินิจฉัยหาสาเหตุไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ที่พบกันอาจมาจากสาเหตุได้ดังนี
- กรรมพันธุ์
- คลอดก่อนกำหนด หรือน้ำหนักแรกคลอดน้อย
- เคยได้รับการบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยบางอย่าง เช่น เกิดอุบัติเหตุบาดเจ็บที่หัวอย่างรุนแรง ติดเชื้อในระบบประสาท อย่าง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ หรือโดนพิษสารตะกั่ว เป็นต้น
ลักษณะของคนที่มีภาวะ LD แตกต่างกันและหลากหลาย อาจสังเกตได้จากพฤติกรรมบางอย่าง อาทิ ดูฉลาด แต่ผลการเรียนต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ตั้งใจฟังคำสั่งอย่างดี แต่ทำตามคำสั่งที่ได้รับไม่ถูกต้อง ดูเหมือนคนเข้าใจอะไรยาก มีปัญหาการอ่าน สะกดคำไม่ได้ เขียนตัวอักษรผิดเพี้ยน มองตัวอักษรบางตัวไม่ออกอย่าง ค สับสน ด เครื่องหมาย + สับสนกับ x เก่งหลายวิชา แต่มีบางวิชาเรียนไม่รู้เรื่องเลย เขียนตัวอักษรไม่รู้เรื่อง เรียงประโยคผิดๆ แต่ปัญหาที่พบกว่า 80 เปอร์เซ็นของคนที่เป็น LD จะมีปัญหาด้านการอ่าน
คนที่เป็น LD อาจมีปัญหาเพียงด้านใดด้านหนึ่ง หรือหลายๆ ด้านผสมกันก็ได้ ซึ่งปัญหาทั้งหมดมักทำให้ คนที่เป็นLDไม่เข้าใจตนเองว่าทำไมเรียนไม่รู้เรื่องทั้งที่ตั้งใจเต็มที่ มักมีผลการเรียนไม่ดี เพราะวฺิธีการเรียนการสอบล้วนให้การอ่าน ฟัง พูดทั้งสอน หากมีปัญหาด้านใดด้านหนึ่งก็ทำให้เรียนไม่รู้เรื่องได้เลยล่ะค่ะ แต่ปัญหาดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับระดับสติปัญญานะคะ หากคนที่เป็น LD ได้ทดสอบ IQ ก็จะพบว่าระดับสติปัญญาปกติหรือสูงไปเลยก็ได้
การรักษาภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้นี้ ต้องใช้การรักษาและดูแลหลายรูปแบบ ทั้งกินยา การพัฒนาทักษะที่บกพร่องอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญคือการเข้าใจของพ่อแม่ ครู และตัวน้องที่เป็นเอง
งานวิจัยพบว่ามีมีผู้มีอาการภาวะ LD นี้มากถึง ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ของเด็กวัยเรียนทั้งหมด แปลว่า เด็กประมาณ 50 คน อาจพบเด็กที่เป็น แอลดีได้ถึง 2-3 คน เชียวนะ เผื่อน้องๆ จะได้สังเกตคนรอบข้างว่ามีอาการแบบนี้ไหม แต่ของแบบนี้ต้องสังเกตกันพอสมควรหน่อยนะ ไม่ใช่ว่าอ่านติดขัดครั้งเดียวก็ไปบอกเขาว่าเป็นโรคนี้แล้วนะ จะไปวินิจฉัยใครหรือไปชี้หน้าเขาแล้วบอกว่า เธอเป็นโรค LD ไม่ได้นะเออ การบอกว่าเขาจะเป็นโรคใดๆ หรือไม่นั้น เป็นหน้าที่ของคุณหมอเท่านั้นค่ะ หากน้องๆ เกิดสงสัยว่าเพื่อนมีลักษณะแปลกๆ ที่ทำให้เรียนไม่เก่ง ก็ให้บอกคุณครูประจำชั้นค่ะ
แต่ที่สำคัญมากๆ ที่พี่เกียรติเป็นห่วงสุดๆ คือ เด็กหลายคนหมดความภาคภูมิใจในตัวเอง และคิดว่าตัวเองโง่เง่า เพราะตั้งใจเรียนแล้วก็ไม่เก่งเสียที พ่อแม่ก็คอยตำหนิหาว่าไม่ตั้งใจเรียน เรียนยังไงให้แพ้ลูกข้างบ้าน!?! ครูถามก็ตอบไม่ได้ เพื่อนๆ หัวเราะเป็นเรื่องตลก แต่จริงๆ แล้วอาจเรียนไม่เก่ง เพราะภาวะบกพร่องทางการเรียนรู้ หรือ LDนี้ก็ได้ เรื่องสมองซับซ้อนและเข้าใจยาก แต่ไม่มีใครช้าเกินเข้าใจและพัฒนาสมองของตนเอง!!!! เพราะฉะนั้น โปรดอย่าลืมติดตามคอลัมน์พัฒนาสมองโดยพี่เกียรติจ้า (แฝงโฆษณาเนียนเนอะ ฮี่ๆๆๆ)
เอกสารอ้างอิง
ชมรมผู้ปกครองบุคคลบกพร่องทางการเรียนรู้ ขอบคุณข้อมูลดีดีที่เป็นประโยชน์จาก : dek-d.com
เราทุกคนสามารถติดต่อหรือสอบถามข้อมูลชมรมฯได้หลายช่องทาง สามารถเลือกได้ตามความสะดวก
สถานที่ตั้งชมรมผู้ปกครองบุคคลบกพร่องทางการเรียนรู้ จังหวัดนครสวรรค์ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 206 หมู่ที่ 3 ตำบล หนองกรด อำเภอ บรรพตพิสัย จังหวัด นครสวรรค์ รหัสไปรษณีย์ 60180
ld nakonsawan
Tel : 093-2751308